การสืบทอดศิลปะการเชิดและการร้อง ของหุ่นกระบอกจังหวัดนครสวรรค์ เป็นบทละครโบราณ  จำนวน  ๑๔  เรื่อง ดังนี้

- พระโมกขลา – สารีบุตร  เป็นเรื่องที่ไม่ได้เล่นบ่อยนัก  เนื้อเรื่องไม่ทราบว่าเป็นพุทธประวัติหรือไม่ เพราะจำมาจากบรรพบุรุษ
- พระอภัยมณี  นิยมเล่น ตอนหนีนางผีเสื้อ  โดยยึดเนื้อหาตามวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของสุนทรภู่    
- แก้วหน้าม้า  นิยมเล่น ตอนท้ายเรื่องโดยยึดเนื้อหาตามวรรณคดี
- โกมินทร์  นิยมเล่น ๒ ตอนด้วยกันคือ ตอนยกศร และ ตอนเชือดเนื้อ
- รามเกียรติ์ นิยมเล่น  ตอนสีดาวาดรูป
- พระพรตวิฬา – หน้าแมว  นิยมเล่นตลอดเรื่อง
- พระชัยมงคล  นิยมเล่นตลอดเรื่อง
- เวรย่อมสนองเวร นิยมเล่นตลอดเรื่อง
- ไพรวัลย์ปราบอสูร  นิยมเล่นตลอดเรื่อง
- พิศวงหลงสวาท  นิยมเล่นตลอดเรื่อง
- ขันทอง  นิยมเล่นตลอดเรื่อง
- มาลัยสุริยา  นิยมเล่นตลอดเรื่อง
- มณีสุริยวงศ์  นิยมเล่นตลอดเรื่อง
- ขุนช้างขุนแผน นิยมเล่นตลอดเรื่อง

                

________ทั้ง ๑๔  เรื่อง  ที่กล่าวมานี้จะมีลักษณะเป็นนิทานประเภทจักร ๆ วงศ์ ๆ เพราะโครงเรื่อง     แต่ละเรื่องจะประกอบไปด้วยเหตุการณ์ที่ตัวเอกต้องมีเหตุอันเป็นไปต้องตกระกำลำบาก แล้วได้พบพระฤๅษี  หรือผู้วิเศษเป็นอาจารย์สอนวิชาให้  เมื่อเรียนวิชาสำเร็จพระเอกจะต้องกลับบ้านเมืองเพื่อชิงบัลลังก์คืน และระหว่างทางมีเหตุให้พระเอกต้องผจญมากมาย  การดำเนินเรื่องบางครั้งอาจสับสน  เพราะเนื้อเรื่องคล้ายคลึงกัน  อนุภาคของเรื่องหนึ่งอาจจะไปแทนที่ในอีกเรื่องหนึ่งได้